รีวิวเกมส์ Tales of Arise เป็นเกม JRPG ภาคใหม่ล่าสุด กราฟิกสวย แอคชั่นสุดมันส์ ถูกใจแฟนคลับ
ซีรีส์เกม Tales of จัดว่าเป็นเกม JRPG ที่อยู่คู่กับวงการมาอย่างช้านาน โดยเพิ่งจะฉลองครบรอบ 25 ปีไปด้วย แต่ละภาคมีการปรับเปลี่ยนลูกเล่นรวมทั้งฟีเจอร์ใหม่ๆเข้ามาเสมอแต่ว่าก็ยังไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของเกมไป ซึ่งล่าสุดภาคใหม่อย่าง Tales of Arise ก็ได้ออกมาวางขายให้แฟนๆได้เล่นกันเรียบร้อยแล้ววันนี้ และก็ตัวผมเองก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปเล่นเกมนี้ในเวอร์ชั่น PS5 พร้อมด้วยจะมากล่าวถึงเนื้อหาและก็ความรู้สึกสำหรับการเล่นเกมนี้มาให้อ่านกันอีกเช่นเคย
สิ่งแรกที่ขอหยิบเอามาพูดถึงเลยก็คืองานด้านภาพหรือกราฟิกภายในเกมที่ดูจะสะดุดตาขึ้นมามากถ้าเกิดเทียบกับภาคก่อนๆแล้วก็ Tales of Arise เองทางทีมพัฒนาก็เปลี่ยนมาใช้ Unreal Engine ในการพัฒนาด้วยทำให้ภาพที่ออกมานั้นสวยงามแต่ว่ายังสามารถเล่นกันได้ลื่นไหล ฉากกับสถานที่ต่างๆใหญ่โตกว้างขวางขึ้น มีเรื่องของสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไป พื้นผิว แสงเงา เอฟเฟกต์ต่างๆรวมไปถึงการออกแบบโมเดลตัวละครก็ทำได้ละเอียดขึ้น จากสไตล์ของภาพที่เป็นอนิเมะมาตลอดแต่ว่าในภาคใหม่นี้ดูสีสันกับรายละเอียดมันเหมือนถูกยกระดับให้สวยงามราวกับงานศิลปะ ดูแล้วสบายตากับตื่นตาตื่นใจมาก ส่วนตัวผมขอยกให้เป็นเกมสไตล์อนิเมะที่มีงานภาพสวยที่สุดในตอนนี้เลยทีเดียว
สำหรับเรื่องราวของ Tales of Arise ยังคงความเข้มข้นเชื้อเชิญให้ติดตามดังเดิม โดยเกิดขึ้นในดวงดาว Dahnan ที่ดูแลโดยอาณาจักรเผด็จการ Rena ซึ่งรอบังคับชาวกรุงให้แปลงเป็นข้าทาสกระทั่งผู้คนจำนวนมากตาย และก็ตัวนำของพวกเราซึ่งชื่อว่า Alphen ก็เป็นข้าทาสอยู่ในดาวนี้ด้วย แม้กระนั้นประวัติความเป็นมาของเจ้าตัวนั้นยังคงเป็นปัญหาเนื่องจากตัวเค้าเองไม่อาจจะจำเรื่องราวในสมัยก่อนได้ จนกระทั่งวันหนึ่งได้มาพบกับ Shionne สาวสวยผู้ถูก Rena ตามล่ารวมทั้งได้ร่วมมือกันจนกระทั่งหนีออกมาได้ ซึ่งข้างหลังนี้ทั้งสองก็จะเดินร่วมทางโดยมีเป้าหมายเพื่อจะเป็นอิสระจากการเป็นข้ารับใช้รวมทั้งโค้นล้มเผด็จการปล่อยชาวดาว Dahnan ให้มีอิสรภาพ !!!
จากที่ทดลองเล่นไปแล้วบรรยากาศโดยรวมของดาว Dahnan มองมีความเป็นดาร์คแฟนตาซีในยุคกลางเป็นอย่างมาก ทั้งยังการออกแบบศัตรู เสื้อผ้า คนกรุง พระราชวัง รวมทั้งอื่นๆเรียกว่ามองตั้งใจจริงรวมทั้งเข้มข้นกว่าภาคอื่นๆแต่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ตัวเรื่องราวนั้นเข้าถึงได้ง่ายไม่มีอะไรสลับซับซ้อนนะครับ การเสวนาในเกมก็จะมีทั้งยังฉากธรรมดา คัทซีนที่เป็นเกมเพลย์ รวมถึงฉากคุยแบบ Skit ที่จะเป็นดังพวกเราได้อ่านมังงะเป็นช่องๆไปจนกระทั่งคัทซีนที่เป็นงานอนิเมะอันสวย
การเล่นพื้นฐานยังราวกับภาคก่อนๆพวกเราสามารถรับเควสท์หลัก เควสท์รอง จาก NPC ต่างๆรวมทั้งออกฝ่าไปยังแผนที่ต่างๆซึ่งจะมีมอนสเตอร์เดินกันอยู่ทั่วๆไปให้มองเห็น เมื่อเดินไปชนก็จะเข้าสู้ฉากการต่อสู้ในทันที โดยสไตล์การต่อสู้ในภาคนี้รู้สึกว่าเร็ว ฉับไวขึ้น ให้พวกเราได้โจมตีแบบปกติ กลิ้งหลบ กระโจน หรือใช้ท่าสกิล Arte ซึ่งควรต้องแลกมาด้วยค่า AG ทุกครั้งที่ใช้งาน แล้วก็ค่านี้ก็จะเบาๆมากขึ้นให้เองสำหรับการต่อสู้ ท่าสกิลก็จะมีทั้งยังท่าบนดิน ท่ากึ่งกลางอาศ รวมทั้งแนวทางการทำ Boost Attacks เพื่อเรียกเพื่อเข้ามาช่วยจู่โจมด้วยคอมโบท่าพิเศษซึ่งสามารถเกื้อหนุนการต่อสู้ได้ ได้แก่ใช้เจาะเกราะศัตรู ใช้ยกเลิกศัตรูไม่ให้ร่ายเวทย์ ต่างกันไปตามความรู้ความเข้าใจของผู้แสดง ซึ่งจุดนี้ถือได้ว่าส่วนที่พวกเราจะต้องคิดแผนรวมทั้งพลิกแพลงการต่อสู้ให้กับศัตรูที่กำลังพบอยู่ เป็นความท้าที่น่าสนใจมากๆ
นอกจากนั้นเมื่อพวกเราโจมตีศัตรูต่อเนื่องกันไปจนถึงเกจสี่เหลี่ยมเต็มก็จะสามารถใช้ Boost Strikes ที่เป็นสกิลซึ่งร้ายแรงสุดๆสำหรับการโจมตีออกไปได้ โดยท่านี้จะมีฉากโชว์ท่าสุดอลังให้พวกเราได้มองกันด้วย กระบวนการทำคอมโบสม่ำเสมอแล้วก็การดูแลและรักษาจังหวะสำหรับการโจมตีเลยเป็นอีกหนึ่งความมันส์ที่แฟนซีรีส์เกม Tales of จำเป็นจะต้องติดอกติดใจอย่างไม่ต้องสงสัย
ในเกมนี้นอกเหนือจากการพัฒนาความสามารถไปตามเวเวลของนักแสดงแล้ว ยังมีเรื่องมีราวของการอัพ Skill เพิ่มความสามารถให้กับท่าต่างๆด้วย รวมถึงการที่พวกเราสามารถจัดชุดคำสั่งเซ็ตสไตล์สำหรับในการต่อสู้ให้กับกลุ่มของพวกเราได้ว่าจะเน้นย้ำไปทางด้านไหน ยิ่งไปกว่านี้ยังมีระบบการทำอาหารที่จะให้พวกเราได้ตามหาวัตถุดิบรวมทั้งปรุงมันออกมาเพื่อเพิ่มบัฟให้กับพวกเราได้อีกด้วย โดยทำของกินนี้จะอยู่ในจุดตั้งแคมป์ภายในเกม ให้อารมณ์คล้ายๆการทำอาหารของเกม Final Fantasy 15 แล้วก็ถ้าหากใครถูกใจพวกชุดสกินงามๆในเกมนี้ก็มีอีกทั้งแบบขาย DLC แยกหรือการตามหานกฮูกภายในเกมเพื่อรับสกินต่างๆด้วย เป็นต้น
Tales of Arise ยังคงเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้ไว้อย่างยอดเยี่ยม กับการปรับปรุงอันหลากหลายเพื่อเอาอกเอาใจทั้งยังแฟนเกมรุ่นเก่ารวมทั้งแบบใหม่ให้สามารถเล่นเกมนี้กันได้อย่างเบิกบานแล้วก็เข้าถึงได้ง่าย งานภาพแล้วก็เพลงประกอบก็ยังคงทำเป็นตามมาตรฐาน ระบบต่อสู้ดุดเดือดตื่นเต้น และก็หากคนไหนกันแน่ที่เล่นกับ PS5 ด้วยแล้ว การเล่นแบบ 60FPS นั้นลื่นไหลสุดๆแถมความคมชัดของภาพในระดับ 4K ก็ยิ่งทำให้กราฟิกในเกมดูดีขึ้นไปอีก บอกเลยว่าไม่ควรพลาดเลยครับเกมนี้